ทัศนียภาพบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่ง ที่อยากจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ประกอบด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกัน มีลักษณะแปลกคือจะมีส่วนหนึ่งเป็นหน้าผาชะโงกยื่นออกไปคล้ายหัวเรือสำเภาใหญ่ จึงเป็นที่มาของนามว่า "ภูเรือ" ยอดเขาจะเป็นที่ราบอันกว้้างใหญ่ ได้รับการประการให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติอันดับที่ 16 ของประเทศไทย

สถานที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูเรือตั้งอยู่ ณ.ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีลักษณะเป็นทิวเขาสูง มีป่าสนปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมาก กินเนื้อที่กว่า 120 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตทางด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว บนยอดดอยสูงเป็นภูผาสีสันสดุดตา หินบางก้อนมีรูปร่างเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า กว้านสมอ สภาพโดยรอบจะเห็นขุนเขาน้อยใหญ่เรียงราย มีลักษณะเป็นฝ้าขาว อันเกิดจากการปกคลุมของหมอก และละอองนํ้า พร้อมกับโอบอุ้มด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์

ลักษณะภูมิประเทศ มีลักษณะเป็นทิวเขาสูงเรียงรายกันอยู่อย่างสลับซับซ้อน ส่วนใหญ่จะเป็นเขาหินทราย สลับด้วยเขาหินแกรนิต จึงมีพื้นที่ราบกับพื้นที่ยอดเขาสูงสลับกันไป มียอดสูงสุดก็คือยอดภูเรือ มีความสูงที่ 1,035 เมตรจากระดับนํ้าทะเลปานกลาง นอกจากนั้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ ยังเป็นแหล่งต้นกำเนิดของลำธารหลายสาย เช่น ห้วยนํ้าด่าน ห้วยบง ห้วยทรายขาว อีกทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของนํ้าตกห้วยไผ่อันสวยงามอีกด้วย

ลักษณะภูมิอากาศ ด้วยระดับความสูงกว่า 1,000 เมตรจากระดับนํ้าทะเล จึงทำให้อุทยานแห่งชาติภูเรือมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาวจะมีอากาศเย็นมาก จนกระทั้งทำให้หยดนํ้าค้างบนใบหญ้าเป็นเกล็ดนํ้าแข็ง ซึ่งเรียกว่าแม่คะนิ้ง จึงเป็นเหตุจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่ชอบเผชิญความหนาวเย็นไปเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมากในฤดูหนาว

พืชพันธุ์และสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติภูเรือมีสภาพเป็นป่าปะปนกันอยู่หลายชนิด มีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ ป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติ แซมด้วยพุ้มไม้เตี้ยและทุ่งหญ้าเป็นระยะ นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ไม้ดอกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบป่า กล้วยไม้ที่ให้ดอกใหญ่และสวยงามอีกหลากหลายสายพันธุ์ จึงเหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติจะได้ไปสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง อุทยานแห่งชาติภูเรือยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมาจิ้งจอก หมาไน เสือโคร่ง รวมทั้งนกที่หายากอีกหลายสายพันธุ์ เช่น เหยี่ยวปีกแดง ไก่ฟ้าพญาลอ ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์อีกด้วย

แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ นอกทางธรรมชาติที่น่าสัมผ้สแล้ว อุทยานแห่งชาติภูเรือยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอยากจะแนะนำดังนี้

- ผาโหล่นน้อย ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่สวยงามมาก นอกจากนั้นยังสามารถชมทิวทัศน์ของภูต่างๆโดยรอบได้จากจุดนี้

- ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงที่สุด โดยมีพื้นที่โดยรอบเป็นลานหินสลับกับป่าสน โดยมีทั้งสนสองใบ และสนสามใบ ในวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่นํ้าเหืองและแม่นํ้าโขงซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวได้

- จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกจุดหนึ่งที่สวยงามมาก

- นํ้าตกห้วยไผ่ เป็นนํ้าตกที่ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นนํ้าตกที่มาจากหน้าผาสูงชัน ซึ่งมีความสูงราว 30 เมตร

- นํ้าตกปลาบ่า หรือ ตาดสาน เป็นนํ้าตกที่เกิดจากธารนํ้าที่ไหลจากแผ่นหินขนาดใหญ่ลงสู่แอ่งนํ้าด้านล่าง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลงเล่นนํ้า มีอากาศเย็นสบาย

- ผาซำทอง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งนํ้า ประกอบกับมีไลเคนส์ที่มีสีเหลืองคลายสีทอง จึงเรียกว่าผาซำทอง เป็นจุดชมทิวทัศน์อีกจุดหนึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานตามเส้นทางที่จะไปผาโหล่นน้อยประมาณ 2.5 กิโลเมตร และยังเป็นแหล่งชมพระอาทิตย์อีกจุดหนึ่ง

นอกจากนั้นอุทยานแห่งชาติภูเรือแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสัมผัสอีกหลายแห่งในจังหวัดเลย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 02 5610777 ต่อ 1723